Back to the Beginning: Introduction

เขียนเป็นภาษาไทยละกัน เนื่องจากนี่ไม่ใช่เรื่องที่ฝรั่งจะสนใจอ่าน (ว่าแต่มีคนอ่านจริงๆ ด้วยเหรอ?)
ไหนๆ ปีนี้ก็ตั้งท่าจะเดินทางอย่างเต็มที่ตลอดสามเดือนนี้แล้ว แถมยังเป็นวางแผนการเดินทางเองด้วย (ปกติให้น้องสาวทำตลอด) เก็บบันทึกไว้เป็นอนุสรณ์สักหน่อยละกัน ไม่รู้จะปัญญาเขียนได้กี่ตอน 55

สำหรับทริปอเมริกาครั้งนี้ขอตั้งชื่อว่า back to the beginning เนื่องจากเคยไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่นั่น เป็นครั้งแรกที่จากบ้านไปคนเดียวนานถึง 10 เดือน (คือไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปต่างประเทศคนเดียว แต่นี่เป็นครั้งที่นานที่สุด) นอกจากนี้ยังมาเปลี่ยนเป็นคริสเตียนที่อเมริกา เขียนบลอคครั้งแรกก็ที่อเมริกา และอาจจะมีประสบการณ์เฉียดตาย (?) ครั้งแรกด้วย คือมาตอนเหตุการณ์ 9/11 ในปี 2001 พอดี บินจากนิวยอร์กได้วันเดียวก็เกิดเรื่องเลย ไปโรงเรียนวันแรกแบบมึนๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม่โทรทางไกลมาทันทีว่าลูกชั้นยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า… เอาเป็นว่าเป็นสถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของอะไรหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนชีวิตของเราไปแล้วกัน

ส่วนการเดินทางครั้งนี้ก็ประจวบเหมาะว่าน้องสาวจะไปสัมมนาที่ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เราเลยถือโอกาสติดไปด้วยหลังจากที่ทำงานหนักไม่ได้พักมานาน แถมชิคาโกอยู่ไม่ไกลจากมินเนอาโปลิส รัฐมินเนโซตาที่เคยอยู่ ไม่ถึงกับต้องนั่งเครื่องข้ามประเทศ และเนื่องจากจะอยู่นานให้คุ้มค่าตั๋วเครื่องบินจึงถือโอกาสนี้อีกเหมือนกันที่จะลาออกจากงานด้วยเลย (อันนี้เรื่องยาว กรุณาไปตามอ่านกันเอาเองในโพสต์ก่อนๆ นะจ๊ะ) รู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนเวลากลับไปค้นหาตัวเองยังไงไม่รู้ กลับไปสู่จุดเริ่มต้น ตั้งหลักใหม่ก่อนจะเดินหน้าต่อไป…

สรุปสั้นๆ ว่าจะไปชิคาโกก่อน 5 วันเพื่อให้น้องสาวไปสัมมนาและเที่ยวแถวๆ นั้นสักหน่อยนึง จากนั้นวันที่ 6 จะนั่งรถบัสเกรฮาวด์จากชิคาโกไปมินเนอาโปลิส และไปอยู่กับครอบครัวโฮสต์เราที่นั่น 4 วันหลังจากนั้นน้องสาวจะกลับก่อน ส่วนเราอยู่ต่อไปอีกประมาณ 1 อาทิตย์แล้วกลับเอง

อาจจะสงสัยว่า 12 ปีนี่ยังติดต่อกับโฮสต์อยู่อีกหรือ เอาจริงๆ แล้วคุยกันน้อยมากนะ ดีว่าเค้ามีเฟสบุ๊คเลยรู้สึกเหมือนความสัมพันธ์ยังไม่ขาดไปซะทีเดียว และทุกครั้งคุยกันที่ครั้งเค้าจะถามว่าเมื่อไหร่จะมาเยี่ยมบ้าง ทำให้เราคิดอยู่ตลอดว่าสักวันจะต้องกลับไปให้ได้ ทันที่บอกแอนนา (แม่) ว่าจะได้กลับไปแล้วนะ เค้าก็ตื่นเต้น ถามว่าจะมาพักอยู่ด้วยกันเลยใช่มั้ย เมื่อไหร่ กี่วัน จะไปไหนบ้าง… คุยไปคุยมาจนเราเลื่อนวันกลับให้ได้อยู่นานขึ้นนั่นแล

แต่ยังไงๆ 12 ปีนี่อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ แล้วเราคุยกับแม่อยู่คนเดียว แค่คิดว่าบรรดาน้องชายทั้งสาม ซึ่งตอนนั้นอายุ 5 ขวบ, 4 ขวบ, กับ 18 เดือน ตอนนี้โตเป็นหนุ่มอายุ 17, 16, 13 แล้วก็ตกใจไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เท่ากับคนแปลกหน้าชัดๆ ไปทำความรู้จักกันใหม่เลย  แล้วนอกจากคนแล้วอย่างอื่นก็เปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน ไม่ได้ไปตั้งสิบกว่าปี กระเป๋าเดินทางต้องเปลี่ยนใหม่ สนามบินก็มี September 11th Security Fee มาให้จ่าย… เยอะ

เดี๋ยวคราวหน้ามาพูดถึงการเตรียมตัวกัน 🙂

Leave a comment